จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบท่ามกลางธรรมชาติแม่น้ำและขุนเขาเขียวขจี ด้วยความที่มีแหล่งน้ำและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกล้าจากการทำงานหนักและกำลังมองหาที่พักเรือนแพใกล้ชิดธรรมชาติแต่คงบรรยากาศความหรูหราเพื่อชาร์จแบตร่างกายให้เต็ม และพร้อมกลับสู่โลกแห่งความจริงด้วยความกระปรี้กระเปร่าล่ะก็ เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว เรือนแพหรูริมแม่น้ำแควน้อยน่าจะตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดี
รีสอร์ทนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสไตล์ไทยพื้นบ้าน หรือทิวทัศน์เขาหินปูนที่ปกคลุมไปด้วยหมอกขาวในยามเช้าและลำน้ำแควน้อยที่เห็นได้จากหน้าต่างห้อง ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่อย่างสันโดษและจำนวนห้องเพียงสิบกว่าห้อง ที่นี่จึงเหมาะสำหรับวันหยุดสบายๆ ให้คุณได้ใช้เวลากับตัวเองและคนใกล้ชิดอย่างเต็มที่
เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว เรือนแพสุดหรู
ที่พักที่เน้นการพักผ่อนจริงๆ ที่เดอะโฟลทเฮาส์ ริเวอร์แคว คุณจะสะดุดตากับการตกแต่งด้วยเชือกระโยงระยางทั้งบนเพดานสูงและตามผนัง เมื่อมาอยู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้และหลังคาแฝกแล้ว เรือนแพนี้จึงให้อารมณ์ราวกับอยู่ในเรือนไทยสไตล์ภาคตะวันออก ภายในเต็มไปด้วยที่นั่งที่นอน เรียกว่าได้เดินไปส่วนไหนของห้องคุณก็สามารถล้มตัวลงพักผ่อนได้หมด
ไฮไลต์ของการนอนแพก็คือการได้ใกล้ชิดกับแม่น้ำ ทุกห้องจึงมีระเบียงกว้างอยู่หน้าห้องให้ได้เอนหลังอ่านหนังสือหรือนอนมองสายน้ำเพลินๆ และยังมีชิงช้าที่จะไกวเองในจังหวะที่มีเรือแล่นผ่านไปมาอีกด้วย สำหรับห้องน้ำนั้น แม้จะเป็นเรือนแพ แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สะดวก เพราะห้องน้ำที่นี่ทั้งกว้างขวางและแยกเป็นสัดส่วน
อาหารการกิน
ห้องอาหารพอนทูน (Pontoon) เป็นร้านของรีสอร์ท ที่ให้บริการท่ามกลางบรรยากาศเปิดโล่ง ในตอนค่ำบริเวณนี้จะสว่างไสวด้วยไฟสีเหลืองทอง ให้อารมณ์โรแมนติกอย่าบอกใคร
แม้ที่เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว จะมีทางเลือกเพียงร้านเดียว แต่รับรองว่าคุณไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เฉพาะวิวธรรมชาติจากโต๊ะอาหารก็ชนะเลิศแล้ว แถมยังมีพนักงานชาวมอญหน้าตายิ้มแย้มพร้อมให้บริการด้วยความเอาใจใส่และสำเนียงน่ารัก เพิ่มความรื่นรมย์ให้กับมื้ออาหาร
กิจกรรมกับสายน้ำ
ในช่วงเวลากลางวัน ถ้าใครชีพจรลงเท้าอยากออกไปสำรวจบริเวณรอบๆ ทางรีสอร์ทก็มีบริการแพเปียกแบบบ้านๆ ที่จะพาคุณล่องแม่น้ำชมวิวป่าเขาสองข้างทางหรือไปชมหมู่บ้านมอญเพื่อดูวิถีชีวิตของพวกเขา หรือถ้าอยากตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย คุณก็สามารถเช่าเรือแคนูออกไปพายท้าทายสายน้ำ หรือจะกระโดดตูมลงน้ำจากระเบียงหน้าห้องก็ยังได้ แต่บางช่วงของปีกระแสน้ำอาจไหลแรง จึงควรสอบถามจากพนักงานให้แน่ใจก่อน
สำหรับการผจญภัยบนบก เพียงเดินขึ้นบันไดไม้ยกระดับไปด้านบน แล้วเดินหรือปั่นจักรยานที่รีสอร์ทมีให้บริการไปอีก 1 กิโลเมตร ก็จะถึงถ้ำละว้า แม้ทางเข้าถ้ำจะดูเล็กๆ แต่ภายในนั้นกว้างขวางและตระการตาไปด้วยหินงอกหินย้อย ในตอนกลางคืน อย่าพลาดชมรำมอญ ซึ่งเป็นการแสดงรำฟ้อนของชาวมอญที่ดูแปลกตาในจังหวะคึกคัก คุณสามารถสอบถามข้อมูลได้จากพนักงาน
การเดินทาง
***************************************
รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง
เรือของรีสอร์ทมารับที่ท่าเรือรีโซเทลไปที่อ.ไทรโยค เพื่อไปยังน้ำตกไทรโยคน้อย ประมาณหลักกิโลที่ 56 ให้มองหาป้าย “ริเวอร์เเควรีโซเทล” จอดรถที่ท่าเรือการเดินทางด้วยเรือใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีซึ่งคุณจะได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามไปตลอดทาง
นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางด้วยรถบัสโดยมาลงที่ตัวเมืองกาญจนบุรีแล้วต่อรถบัสมาที่ไทรโยคหรือจะนั่งรถไฟขบวนธนบุรี-น้ำตกหรือหัวลำโพง-น้ำตกก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น