ความอื้อฉาวของ “เกาะเต่า” ถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้ง จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษซึ่งอ้างว่าถูกข่มขืนแต่เจ้าหน้าที่ไทยกลับเพิกเฉย แต่อีกด้านหนึ่ง "เกาะเต่า" ก็ยังมีมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เดินทางมาสัมผัส โดยเฉพาะความงดงามของโลกใต้น้ำ
“เกาะเต่า” คือหนึ่งในหมู่เกาะทะเลใต้ ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีเกาะพะงัน เกาะสมุย รวมอยู่ด้วย โดยแต่ละเกาะก็มีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน "เกาะสมุย" ซึ่งใหญ่ที่สุด จะมีศักยภาพในเชิงการท่องเที่ยว มีหาดเฉวง หาดละไม น้ำตกหินลาด "เกาะพะงัน" เทศกาล Fullmoon Party ยังเป็นที่รวมตัวของสายปาร์ตี้ แต่ถ้าพูดถึงความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลที่ขึ้นชื่อคงหนีไม่พ้น “เกาะเต่า” จนได้รับการขนานนามว่า “สวรรค์ของนักดำน้ำ”
อาจเป็นเพราะมีจุดดำน้ำกว่า 20 จุดรอบเกาะ ซึ่งทำให้เกิดเป็นแหล่งเรียนดำน้ำที่สามารถฝึกได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก จนเกิดโรงเรียนดำน้ำกว่า 65 แห่ง และมี 30 แห่ง ที่มีผู้ฝึกดำน้ำ หรือ Professional Association of Diving Instructors (PADI) อยู่ด้วย ซึ่งผลิตนักดำน้ำมาแล้วกว่า 500,000 คนทั่วโลก
ในปี 2558 เว็บไซต์ TripAdvisor เว็บไซต์การท่องเที่ยวชื่อดัง ได้ประกาศผลการจัดอันดับ 10 เกาะยอดนิยมจากการเลือกของนักท่องเที่ยวทั่วโลก (Travelers’ Choice Island) และ "เกาะเต่า" ได้ถูกโหวตให้อยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก และอันดับที่ 1 ของเกาะยอดนิยมของเอเชียนอกจากนั้น ยังถูกจัดไว้เป็น 1 ใน 10 แหล่งเรียนดำน้ำที่ดีที่สุดของโลก โดยเว็บไซต์ Lonely Planet อีกด้วย
"โน้ต" ช่างภาพอิสระและช่างภาพใต้น้ำ เปิดเผยกับทีมข่าวนิวมีเดีย พีพีทีวี ว่า เหตุผลที่เกาะเต่าเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปดำน้ำมีอยู่ 2 เหตุผลหลักๆ คือ ราคาค่าเรียนดำน้ำไม่แพงและสามารถไปดำน้ำได้ตลอดทั้งปี มีจุดดำน้ำหลากหลายในแต่ละพื้นที่ รวมถึงมีสิ่งมีชีวิตใต้น้ำตั้งแต่ปลาฝูง ฉลามหูดำ ฉลามวาฬ ไปจนถึงปะการังสวยงาม
เกาะดำน้ำที่ขึ้นชื่อของเกาะเต่า เช่น กองหินชุมพร อยู่ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่านับเป็นจุดดำน้ำที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในอ่าวไทย สภาพน้ำค่อนข้างใส ความลึกสูงสุดประมาณ 30 – 40 เมตร เหมาะกับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์ มีดอกไม้ทะเล ปะการังดำ ปลาหูช้าง ปลาสาก ปลาเก๋าดอกหมากขนาดยักษ์ และยังเป็น จุดดำน้ำดูฉลามที่ดีที่สุดเแห่งหนึ่งในอ่าวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉลามหัวบาตร
ขณะที่ อ่าวม่วง ก็เป็นแหล่งปะการังน้ำตื้น ที่คงสภาพอุดมสมบูรณ์ที่สุดของเกาะเต่า มีแนวปะการังที่ยาวมาก แนวปะการังส่วนใหญ่ของอ่าวม่วงยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พบมากคือปะการังสมองร่องยาว ปะการังวงแหวน ปะการังเกร็ดน้ำแข็ง ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังเห็ด และปะการังช่องเหลี่ยม รวมทั้งฝูงปลานกแก้ว ปลาลายเสือและปลาการ์ตูนอินเดีย
และถ้าจะยกตัวอย่างอีกสักจุดจาก 20 จุดดำน้ำ ก็คือ “กองหินขาว” เป็นสวนปะการังขนาดใหญ่ตั้งอยู่ระหว่างหินแกรนิต 2 กอง มีระดับความลึก 26 เมตร และ 5 เมตร เหมาะแก่นักดำน้ำทุกระดับ โดยเฉพาะถ้าดำน้ำกลางคืนอาจได้เจอกับ ปลากระเบน ปลาปักเป้า ปลานกแก้ว รวมทั้งปลาตาโตหรือบางครั้งอาจได้เห็นเต่ากระอีกด้วย
ในแต่ละปีตามการเปิดเผยของ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า สถิตินักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีจำนวนเฉลี่ยประมาณ 80,000 คนต่อเดือน ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวถึง 30,000 คน ที่เดินทางไปเที่ยวเกาะเต่า ทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ
"เมืองไทยคือดินแดนมหัศจรรย์โดยแท้ในเรื่องการท่องเที่ยว โดยเฉพาะความสวยงามของท้องทะเลที่ดังไกลไปทั่วโลก อย่าให้เรื่องอื้อฉาวต้องมาทำลายความสวยงามเหล่านี้ให้หม่นหมองลงอีกเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยกันได้จากความร่วมมือของคนไทยเองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับผู้บริหารประเทศ"
ข้อมูล : สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
http://www.sawadee.co.th/kohtao
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น