OUR FACEBOOK
- หน้าแรก
- Where to go /แนะนำที่เที่ยว
- โรงแรมที่พัก/Accommodation
- Thai Beaches / ทะเลสวย ๆ
- Transport for Rent / รถให้เช่าทั่วไทย
- my English Website
- เที่ยวเมือกนอก เมือง สวย ๆ ได้ที่กรุงเทพฯ
- Never Go To Thailand/อย่ามาเลยเมืองไทย -
- 10 จุดเช็คอินที่เที่ยวพิษณุโลก
- Contact Us / ติดต่อเรา
- my exotics Pet
- Admin
วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2565
ททท. เปิดงานเทศกาล “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2565” ชูคอนเซปต์ "สงกรานต์วิถีใหม่ แต่งไทยเที่ยววัด" ชวนสัมผัสอัตลักษณ์ไทยผสานวิถีใหม่ ณ 10 พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร
วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2565
10 จุดเช็คอินที่เที่ยวพิษณุโลก เมืองน่ารักที่ต้องไป ไม่ใช่เพียงทางผ่าน
1. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
เริ่มต้นที่ตัวเมืองพิษณุโลก ที่นี่มีวัดคู่บ้านคู่เมืองที่ถ้าใครไม่ได้มาสักการะ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงพิษณุโลก นั่นก็คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่คนพิษณุโลกเรียกกันว่าวัดใหญ่ เป็นพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปหล่อด้วยสำริด ปางมารวิชัยที่ได้รับยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปที่สวยที่สุดในโลกประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารพระพุทธชินราช ตัวพระวิหารสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ภายในวัดยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมายเช่น พระปรางค์ สร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พระยาลิไท) เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระวิหารพระอัฏฐารส หรือวิหารเก้าห้อง ประดิษฐานพระอัฏฐารส พระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติสูง 18 เมตร ซึ่งปัจจุบันตัวพระวิหารได้พังลง เหลือเพียงเสา และตัวฐานของพระวิหารที่เป็นศิลาแลง ใครมาพิษณุโลกแนะนำว่าต้องแวะมากันให้ได้สักครั้งค่ะ
ที่ตั้ง : ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
เวลาเปิด : 6.30 - 21.00 น.
2. วัดนางพญา
จากวัดใหญ่ เดินข้ามถนนมาก็จะเจอวัดนางพญา อีกหนึ่งวัดสำคัญในพิษณุโลก ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องพระพิมนางพญา ว่ากันว่าพระนางพญานั้นสร้างโดยพระวิสุทธิกษัตรีย์ พระมเหสีของพระมหาธรรมราชา และทรงเป็นพระราชมารดาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระสมเด็จนางพญาเรือนแก้ว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางเรือนแก้ว เหมือนกับพระพุทธชินราช ซึ่งวัดนางพญานั้นเป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวพิษณุโลก
ที่ตั้ง : ถนนจ่าการบุญ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
เวลาเปิด : 7.00 - 17.00 น.
3. วัดราชบูรณะ
วัดราชบูรณะ อีกหนึ่งวัดสำคัญในจังหวัดพิษณุโลก ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารและวัดนางพญา วัดราชบูรณะนั้นเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยก่อนรัชสมัยพระยาลิไท ภายในวัดมีพระวิหารหลวงซึ่งเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ภายในพระวิหารประดิษฐานหลวงพ่อทองดำ พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทองปางมารวิชัย มีเจดีย์หลวงซึ่งเป็นเจดีย์ทรงลังกาตั้งอยู่บนฐานก่ออิฐถือปูน สูง 24 เมตร และเจดีย์แห่งนี้ยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในจังหวัดพิษณุโลกอีกด้วย ภายในวัดยังมีโบราณสถาน และโบราณวัตถุสำคัญให้เข้าไปเยี่ยมชมอีกมากมาย อาทิ หอไตรเสากลม ชั้นล่างเป็นหอระฆัง ชั้นบนเป็นหอไตรเก็บรักษาพระคัมภีร์ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย และเรือพระที่นั่งรับเสด็จสมัย ร.5 ในคราวเสด็จเลียบมณฑลฝ่ายเหนือ
Thai Tour and Travel แนะนำ...5 ที่พักนอนเต็นท์ สุดชิลล์ใกล้กรุง สำหรับเด็ก
ออกไปเที่ยวพักผ่อนทั้งที...คราวนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากที่พักแบบเดิมๆ แล้วชวนสมาชิกในครอบครัวมานอนพักสุดชิลล์ กับ 5 ที่พักนอนเต็นท์ บรรยากาศสุดชิลล์ ภายในที่พักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบคค่ะ แถมกลางคืนยังชวนเด็กๆ นอนดูดาวได้ด้วย
1.Mida Resort Kanchanaburi
ที่อยู่ : 199 หมู่2 ถนนลาดหญ้า-ศรีสวัสดิ์ ตำบลวังด้ง อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรีเบอร์โทรศัพท์ Mida Resort Kanchanaburi : 034527200 , 025741637 , 0851522837
เว็บไซต์ : http://www.midaresortkanchanaburi.comขอบคุณภาพจาก : https://www.facebook.com/midahotelandresort
วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2565
น้ำตกทีลอซู
วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2565
นอนแพหรูดูสายน้ำที่เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว
เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว เรือนแพสุดหรู
อีกมุมของ “เกาะเต่า” ที่ถูกขนานนามว่า “สวรรค์ของนักดำน้ำ”
“เกาะเต่า” คือหนึ่งในหมู่เกาะทะเลใต้ ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีเกาะพะงัน เกาะสมุย รวมอยู่ด้วย โดยแต่ละเกาะก็มีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน "เกาะสมุย" ซึ่งใหญ่ที่สุด จะมีศักยภาพในเชิงการท่องเที่ยว มีหาดเฉวง หาดละไม น้ำตกหินลาด "เกาะพะงัน" เทศกาล Fullmoon Party ยังเป็นที่รวมตัวของสายปาร์ตี้ แต่ถ้าพูดถึงความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลที่ขึ้นชื่อคงหนีไม่พ้น “เกาะเต่า” จนได้รับการขนานนามว่า “สวรรค์ของนักดำน้ำ”
อาจเป็นเพราะมีจุดดำน้ำกว่า 20 จุดรอบเกาะ ซึ่งทำให้เกิดเป็นแหล่งเรียนดำน้ำที่สามารถฝึกได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก จนเกิดโรงเรียนดำน้ำกว่า 65 แห่ง และมี 30 แห่ง ที่มีผู้ฝึกดำน้ำ หรือ Professional Association of Diving Instructors (PADI) อยู่ด้วย ซึ่งผลิตนักดำน้ำมาแล้วกว่า 500,000 คนทั่วโลก
ในปี 2558 เว็บไซต์ TripAdvisor เว็บไซต์การท่องเที่ยวชื่อดัง ได้ประกาศผลการจัดอันดับ 10 เกาะยอดนิยมจากการเลือกของนักท่องเที่ยวทั่วโลก (Travelers’ Choice Island) และ "เกาะเต่า" ได้ถูกโหวตให้อยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก และอันดับที่ 1 ของเกาะยอดนิยมของเอเชียนอกจากนั้น ยังถูกจัดไว้เป็น 1 ใน 10 แหล่งเรียนดำน้ำที่ดีที่สุดของโลก โดยเว็บไซต์ Lonely Planet อีกด้วย
"โน้ต" ช่างภาพอิสระและช่างภาพใต้น้ำ เปิดเผยกับทีมข่าวนิวมีเดีย พีพีทีวี ว่า เหตุผลที่เกาะเต่าเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปดำน้ำมีอยู่ 2 เหตุผลหลักๆ คือ ราคาค่าเรียนดำน้ำไม่แพงและสามารถไปดำน้ำได้ตลอดทั้งปี มีจุดดำน้ำหลากหลายในแต่ละพื้นที่ รวมถึงมีสิ่งมีชีวิตใต้น้ำตั้งแต่ปลาฝูง ฉลามหูดำ ฉลามวาฬ ไปจนถึงปะการังสวยงาม
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2565
รู้ไว้ก็ดี 4 อย่างที่ ผู้หญิงห้ามทำ! ใน ญี่ปุ่น
1. ห้ามผู้หญิงขึ้นภูเขาโอมิเนะ (Mount Omine)
****************************************
วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2565
วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2565
“Le Palais” จักรวรรดิขแมร์เหนือเกาะพะงัน
“Le Palais” จักรวรรดิขแมร์เหนือเกาะพะงัน
CR: https://steemit.com/thai/@bbkastro/le-palais
เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เรามีโอกาสได้มีเวลาพัก 2 วัน หลังจากต้องทำงานลากยาวมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ วันนั้นตรงกับวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของเพื่อนสาวชาวกรีกคนหนึ่ง เธอบอกว่าอยากให้ของขวัญกับตัวเองด้วยการไปพักที่โรงแรมใหม่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่แถวๆหาดริ้น ซึ่งโรงแรมนั้นมีชื่อว่า “Le Palais” เธอนัดหมายเราก่อนหน้านั้นล่วงหน้าเกือบสองอาทิตย์ เราตอบตกลงไปด้วยความตื่นเต้นและเต็มใจ ด้วยหมายหมั้นปั้นมือว่าวันหนึ่งจะต้องเข้าไปชมภายในโรงแรมนี้ให้ได้
https://www.youtube.com/watch?v=RqKr8E6d0tk
Vedio from Sphere Agency
จำได้ว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วตอนที่เราย้ายมาอยู่ที่เกาะพะงันใหม่ๆ ครั้งแรกที่มีโอกาสได้เห็นโรงแรมนี้จากภายนอกตอนนั่งรถผ่านไปยังหาดริ้น เรารู้สึกสะดุดตากับโรงแรมนี้มาก เพราะมันดูยิ่งใหญ่อลังการเสียจนไม่แน่ใจว่าเป็นอาคารประเภทไหนกันแน่...ระหว่างโรงแรม...โบราณสถาน...หรือพิพิธภัณฑ์
ช่วงนั้นโครงการอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แค่เห็นจากภายนอกก็พอจะจินตนาการได้แล้วว่าจะต้องใช้งบประมาณมากมายมหาศาลขนาดไหน รายละเอียดสถาปัตยกรรม ลวดลายปูนปั้น และปฎิมากรรมตกแต่ง เช่น นางอัปสร ครุฑ นาค ฯลฯ ล้วนถอดแบบมาจากสถาปัตยกรรมขอมโบราณ ตามแบบอย่างนครวัด นครธม และปราสาทบายน ยังไงอย่างงั้น เพียงแต่สเกลอาจจะเล็กกว่าของจริง
ณ วินาทีนั้น ด้วยเลือดของนักเรียนเก่าสถาปัตย์แนวอนุรักษ์นิยมที่ยังคงเข้มข้นอยู่ ทำให้เราเกิดตั้งคำถามขึ้นมาในใจว่า “...ใครกันนะ ที่มาอุตริมาออกแบบและสร้างอาคารใหญ่โตมโหฬาลขนาดนี้ริมชายหาด?ไม่ผิดกฎหมายกันเลยหรืออย่างไร? แล้วแถมรูปแบบสถาปัตยกรรมก็อยู่ผิดที่ผิดทางอีกต่างหาก... ไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงกับรากเหง้าวัฒนธรรมท้องถิ่นของที่นี่เลย... ปราสาทขอมอะไรจะมาอยู่บนเกาะ? มันคนละเรื่องคนละราวกันนะเนี่ย ! “
แต่พอหลังจากที่มีโอกาสเข้าไปชมภายใน ความรู้สึกที่ว่านั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เห็นถึงความตั้งอกตั้งใจของนักออกแบบและช่างก่อสร้าง เข้าใจว่าทีมงานมีการ Research ข้อมูลมาอย่างดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะสัดส่วนสถาปัตยกรรม องค์ประกอบของลวดลายปูนปั้น และรูปแบบประติมากรรมต่างๆ ต้องถือว่าเป๊ะ คงไม่ได้นั่งเทียนเขียนแบบเอาแน่นอน !
ชื่อ “Le Palais” เป็นภาษาฝรั่งเศส หรือ “The Palace” ในภาษาอังกฤษ แปลว่า “พระราชวัง” ก็ตาม Concept เขาล่ะค่ะ เข้าไปนอนแล้วรู้สึกเหมือนนอนอยู่ในวัง...เป็นราชินีขอม... อะไรประมาณนั้นเลยล่ะค่ะ... คาดว่าเจ้าของโรงแรมน่าจะมีหุ้นส่วนเป็นชาวฝรั่งเศสด้วย... ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ยุคล่าอาณานิคม... อย่างที่เรารู้กันว่าฝรั่งเศสได้เคยเข้ามามีอิทธิพลอยู่เหนือดินแดนกัมพูชาและบางส่วนของประเทศไทยด้วย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากชาวฝรั่งเศสจะมีความผูกพันกับประวัติศาสตร์ของอาณาจักรขแมร์อยู่ไม่น้อย
แล้วอะไรเล่าที่เป็นแรงบันดาลใจให้เจ้าของโครงการหรือสถาปนิกยกเอาปราสาทขอมทั้งหลังมาไว้บนเกาะแห่งนี้ นอกเหนือไปจากเหตุผลเพื่อการดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่ง ณ จุดนี้ เราคิดว่าผู้ออกแบบน่าจะทำการศึกข้อมูลทางประวัติศาสตร์มาพอสมควร ทำให้ได้ข้อมูลที่มีน้ำหนักมากพอมาใช้สนับสนุนแนวความคิดของเขา... โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Khmerkromngo.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาณาจักรขอมโบราณและเราสันนิษฐานว่า ข้อมูลตรงนี้ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่เขาหยิบยกมาสนับสนุนแนวความคิดของเขา โดยข้อมูลทางประวัติศาสตร์นั้นกล่าวไว้ว่า...
“In this map, the Khmer Empire composed of modern day Kingdom of Cambodia, most of southern Vietnam (Kampuchea Krom or Mekong Delta), Laos, and Kingdom of Thailand.
“จักรวรรดิขแมร์ ประกอบไปด้วย กัมพูชาปัจจุบัน, ภาคใต้ส่วนใหญ่ของเวียดนาม (กัมปูเจียกรอม หรือ สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง), ลาว, และไทย
The empire’s frontiers extend to the North China, to the South Malaysia, to the West Myanma (or Burma), and to the East Kingdom of Champa, South Vietnam (Kampuchea Krom or the Mekong Delta) and South China Seas.
จักรวรรดิมีพรมแดนทางทิศเหนือติดกับจีน, ทิศใต้ติดกับมาเลเซีย, ทิศตะวันตกติดกับพม่า, และทิศตะวันออกติดกับอาณาจักรจามปา, ติดกับภาคใต้ของเวียดนาม (กัมปูเจียกรอม หรือ สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง) แลทะเลจีนใต้
Vietnam was not called Vietnam. It was called Dai Viet.
Champa is a buffer between the Khmer Empire and Dai Viet
There was no Laos. There was no Thailand.
The Khmer Empire was the Greek Empire of Southeast Asia.”
เวียดนามยังไม่ได้ถูกเรียกว่าเวียดนาม แต่เรียกว่า ได่เวียด
จามปา คือ อาณาจักรกันชนระหว่างจักรวรรดิขแมร์และได่เวียด
ยังไม่มีประเทศลาว หรือประเทศไทย จักรวรรดิขแมร์ คือ จักรวรรดิกรีกแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “
ตามความคิดเห็นของเราแล้ว โรงแรมนี้น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบของแปลกและชอบการถ่ายภาพ และบรรยากาศออกจะคล้ายๆกับเมืองโบราณที่สมุทรปราการหรือพัทยาเสียมากกว่าการที่จะเป็นโรงแรม แต่ก็ต้องถือว่าทั้งคนออกแบบและคนสร้างมีความประณีตและใส่ใจในรายละเอียดมากพอสมควร... หากเพื่อนๆสนใจอยากจะเข้าไปชมข้างในก็สามารถเข้าไปชมได้ค่ะ แต่จะต้องจ่ายค่าบัตรเข้าชมคนละ 200 บาท ในกรณีที่ไม่ได้เป็นแขกของโรงแรม แต่ก็ถือว่าคุ้มที่จะเสียตังค์เข้าไปชมล่ะค่ะ...
“Good night and sweet dream”
สิ่งเหล่านี้จะเป็นกำลังใจให้เราสามารถสร้างโพสต์ที่ดีออกมาได้อย่างต่อเนื่อง
Thankful for all followers, upvotes and comments,
you give me energy to create more good posts.
@bbkastro